ทำไมกาแฟดำถึงมีแคลอรี่

กาแฟดำเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่หอมหวานและกระตุ้นความสดชื่น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

เนื่องจากมักถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่หรือมีแคลอรี่น้อยมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว กาแฟดำยังมีแคลอรี่อยู่ ซึ่งบทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุที่กาแฟดำมีแคลอรี่ รวมถึงข้อมูลวิจัยและแหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง

แคลอรี่ในกาแฟดำมาจากไหน?

กาแฟดำประกอบด้วยน้ำและสารเคมีหลายชนิดที่มาจากเมล็ดกาแฟ เมื่อเมล็ดกาแฟถูกบดและสกัดด้วยน้ำร้อน สารเคมีเหล่านี้จะถูกละลายออกมา ซึ่งบางส่วนของสารเคมีเหล่านี้มีแคลอรี่ เช่น คาร์โบไฮเดรตและโปรตีน

1. คาร์โบไฮเดรตในกาแฟ:
   • เมล็ดกาแฟมีคาร์โบไฮเดรตที่ซับซ้อน เช่น เซลลูโลสและโพลีแซคคาไรด์ เมื่อเมล็ดกาแฟถูกสกัดด้วยน้ำร้อน ส่วนหนึ่งของคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้จะถูกละลายออกมา แม้ว่าปริมาณจะน้อยมาก แต่ก็มีแคลอรี่
2. โปรตีนในกาแฟ:
   • เมล็ดกาแฟยังมีโปรตีนอยู่เล็กน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งของโปรตีนนี้จะถูกสกัดออกมาในกระบวนการชงกาแฟ โปรตีนก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งแคลอรี่

ปริมาณแคลอรี่ในกาแฟดำ

โดยทั่วไป กาแฟดำหนึ่งถ้วย (ประมาณ 240 มิลลิลิตร) มีแคลอรี่ประมาณ 2-5 แคลอรี่ ขึ้นอยู่กับวิธีการชงและประเภทของเมล็ดกาแฟ แม้ว่าปริมาณแคลอรี่จะน้อยมาก แต่ก็เพียงพอที่จะนับว่าเป็นแคลอรี่ได้

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแคลอรี่ในกาแฟดำ

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาเกี่ยวกับปริมาณแคลอรี่ในกาแฟดำและสารอาหารที่มีอยู่ในกาแฟ:

1. งานวิจัยโดย National Institutes of Health (NIH):
   • การศึกษาโดย NIH พบว่ากาแฟดำมีสารอาหารที่มีแคลอรี่ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และสารฟีนอลิก ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยในการให้แคลอรี่แก่กาแฟ .
2. งานวิจัยโดย American Chemical Society:
   • การศึกษาโดย American Chemical Society พบว่ากาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งบางชนิดมีโครงสร้างคล้ายกับคาร์โบไฮเดรตและสามารถให้แคลอรี่ได้ .
3. การศึกษาเกี่ยวกับผลของกาแฟต่อเมตาบอลิซึม:
   • การศึกษาอื่นๆ พบว่ากาแฟมีผลต่อการเผาผลาญของร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มการใช้พลังงานและการเผาผลาญไขมัน .

สรุป

แม้ว่ากาแฟดำจะมีแคลอรี่ต่ำ แต่ก็ยังมีแคลอรี่อยู่เนื่องจากสารอาหารที่มาจากเมล็ดกาแฟ เช่น คาร์โบไฮเดรตและโปรตีน การดื่มกาแฟดำสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายได้ แต่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์

---

แหล่งอ้างอิง:

1. National Institutes of Health. “Caffeine: How does it work?”
2. American Chemical Society. “The Chemistry of Coffee.”
3. International Coffee Organization. “Coffee and Health.”
4. Coffee Science Information Centre. “Coffee and Metabolism.”
5. Mayo Clinic. “Coffee and Health: What does the research say?”